The Tower Computer

Windows 11 vs Windows 12 (ลือ) ปี 2026 มีอะไรที่ต่างกัน?

Windows 11 vs Windows 12 (ลือ) ปี 2026 มีอะไรที่ต่างกัน

Microsoft กำลังถูกจับตามองอีกครั้ง เพราะมีข่าวลือว่า Windows 12 อาจเปิดตัวภายในปี 2026 เพื่อมาแทนที่ Windows 11 ที่ใช้งานกันมาหลายปีแล้ว หลายคนจึงเริ่มสงสัยว่า… Windows 12 จะต่างจาก Windows 11 แค่ไหน? คุ้มที่จะอัปเกรดไหม?


1. อินเทอร์เฟซ (UI) และดีไซน์

  • Windows 11 → ดีไซน์โค้งมน เมนูตรงกลาง คล้าย macOS มีธีม Dark/Light ปรับได้

  • Windows 12 (ลือ) → อาจมาพร้อม UI แบบโมดูลาร์ (Modular UI) คล้าย “วางบล็อก” ที่ปรับแต่งหน้าตา Desktop ได้มากกว่า เช่น Widget, แถบเครื่องมือ ลากไปวางตรงไหนก็ได้

👉 ถ้า Windows 11 คือ “บ้านที่ตกแต่งสวยงามแล้ว”
Windows 12 ก็คือ “บ้านที่คุณสามารถรื้อผนัง ตกแต่งใหม่ได้เอง”


2. AI Integration (หัวใจหลักของ Windows 12)

  • Windows 11 → มี Copilot (AI Assistant) ใช้งานได้ แต่ยังค่อนข้างเบสิค เช่น สรุปข้อความ, ตั้งค่าเครื่อง, แนะนำการใช้งาน

  • Windows 12 → ข่าวลือบอกว่าจะ “ฝัง AI” ลึกลงในระบบ เช่น

    • AI Optimize → ปรับประสิทธิภาพคอมให้ตรงกับงานที่ทำ (เล่นเกม / ทำงาน / ประหยัดพลังงาน)

    • AI Search → ค้นหาไฟล์/ข้อมูลในเครื่องแบบ “เข้าใจความหมาย” ไม่ใช่แค่หาคำตรง ๆ

    • AI Companion → ผู้ช่วยทำงานคล้าย Jarvis ใน Iron Man


3. ความต้องการสเปก (System Requirement)

  • Windows 11 → ต้องมี TPM 2.0 + CPU Gen 8 ขึ้นไป RAM ขั้นต่ำ 4GB

  • Windows 12 (ลือ) → อาจจะต้องการสเปกที่สูงขึ้น เช่น

    • CPU ที่รองรับ AI/NPU (Neural Processing Unit)

    • RAM ขั้นต่ำ 8GB

    • GPU ที่รองรับ DirectX 12 Ultimate

    • รองรับจอ 2K/4K เป็นมาตรฐาน

👉 แปลว่า “คอมเก่า” ที่อัปเกรดมาใช้ Windows 11 ได้ อาจไปต่อ Windows 12 ไม่ได้


4. Gaming & Performance

  • Windows 11 → มี DirectStorage, Auto HDR, การ Optimize เกมที่ดีขึ้น

  • Windows 12 → คาดว่าจะ รองรับ Cloud Gaming เต็มรูปแบบ + ปรับแต่งเกมให้เข้ากับฮาร์ดแวร์อัตโนมัติ (AI Game Tuning)


5. ความปลอดภัย (Security)

  • Windows 11 → ปลอดภัยกว่ารุ่นเก่าเพราะมี TPM 2.0 + Secure Boot

  • Windows 12 → ข่าวลือบอกว่า Microsoft จะเน้น AI Security เช่น ระบบตรวจจับ Malware แบบเรียลไทม์ หรือการล็อกอินที่ใช้ Biometric + AI วิเคราะห์พฤติกรรม


6. การเชื่อมต่อ Cloud & Ecosystem

  • Windows 11 → เชื่อม OneDrive, Microsoft 365 ได้ดี

  • Windows 12 → อาจเป็น Cloud-first OS ใช้ Cloud เก็บไฟล์/ตั้งค่าเป็นหลัก (ล็อกอินที่ไหนก็ได้เครื่องเหมือนเดิม) คล้าย ChromeOS แต่ยืดหยุ่นกว่า


สรุป

  • ถ้าคุณใช้ Windows 11 ตอนนี้ ยังถือว่าเพียงพอสำหรับงานทั่วไปและเล่นเกม

  • แต่ถ้า Windows 12 เปิดตัวจริงในปี 2026 → AI + Cloud + Gaming จะเป็นหัวใจหลัก

  • คนที่อยากได้เทคโนโลยีใหม่สุด ควรเริ่มคิดเรื่องอัปเกรดคอม (โดยเฉพาะ CPU + RAM)

👉 สำหรับเกมเมอร์และ Creator การมาของ Windows 12 อาจเปลี่ยนวิธีใช้คอมไปอีกขั้น เพราะ AI จะเข้ามาช่วยทั้งการทำงาน การเล่นเกม และการ Optimize เครื่องแบบอัตโนมัติ

Posted : 27/08/2025  | บทความ

Social Link : 

Views: 12