หลายคนที่กำลังจะซื้อคอมใหม่คงสังเกตได้ว่า การ์ดจอแพงขึ้นแทบทุกปี แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาเร็วขึ้น แต่ราคาก็ยังไม่มีแนวโน้มลดลงเหมือนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป
บทความนี้จะพาไปดูแบบชัด ๆ ว่าอะไรคือสาเหตุหลักที่ทำให้ ราคาการ์ดจอ (GPU) ปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

1. ต้นทุนการผลิต GPU สูงขึ้น แม้เทคโนโลยีดีขึ้นก็ตาม

แม้ชิปการ์ดจอจะพัฒนาจาก 12nm → 7nm → 5nm → 4nm แต่กระบวนการผลิตที่เล็กลงกลับมีต้นทุนสูงขึ้นมาก

• โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ต้องลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์

• Yield (ชิปที่สมบูรณ์) ต่ำ ทำให้ต้นทุนต่อชิปแพง

• การทดสอบและการซ่อมบำรุงแพงกว่าเดิม

สรุป: เทคโนโลยีดีขึ้น แต่ต้นทุนผลิตสูงขึ้นมากกว่าเดิม

2. ความต้องการการ์ดจอเพิ่มขึ้นจากหลายอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่เกมเมอร์

ในอดีต การ์ดจอมีความต้องการหลักจาก “เกมเมอร์” แต่ปัจจุบันถูกใช้งานในหลายวงการ เช่น

• AI และ Machine Learning

• การตัดต่อวิดีโอระดับ 8K

• งาน 3D Animation

• โครงสร้างพื้นฐาน Cloud

• Cryptocurrency (กระทบหนักช่วงปี 2021)

Demand สูงกว่า Supply → ราคาพุ่งขึ้น

3. AI Boom ทำให้ GPU ถูกแย่งไปจากตลาดเกม

ตั้งแต่ปลายปี 2023–2025 ตลาด AI เติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้ GPU ประสิทธิภาพสูงถูกซื้อไปใช้แบบมหาศาล เช่น

• NVIDIA H100

• A100

• RTX 4090 สำหรับงาน AI

• การ์ดจอ Data Center รุ่นใหม่ ๆ

บริษัทใหญ่ ๆ เช่น Meta, Google, Microsoft, OpenAI ซื้อ GPU จำนวนมากจนเกิดภาวะ “ขาดตลาด” แม้อยู่คนละกลุ่ม แต่ผลกระทบกระจายไปทั่ว ทำให้ GPU Gaming แพงขึ้นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

4. การผูกขาดตลาดในฝั่ง NVIDIA ทำให้ราคาถูกดันขึ้น

ปัจจุบัน NVIDIA ครองตลาดการ์ดจอระดับสูงเกือบ 80% ทำให้

• ไม่จำเป็นต้องลดราคาแข่งขัน

• Sticker Price ของรุ่นบนสูงขึ้นทุกปี

• รุ่นกลาง–ล่างถูกดันราคาเพิ่มตามไปด้วย

เทคโนโลยีดีขึ้น แต่การแข่งขันน้อย → ราคาไม่ลง

5. ต้นทุนวัตถุดิบและโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น

หลายอย่างที่ใช้ผลิตการ์ดจอขึ้นราคา เช่น

• เมมโมรี GDDR6 / GDDR6X

• ทองแดงสำหรับระบบไฟ

• วงจร PCB

• ฮีตซิงก์ อลูมิเนียม

• ค่าขนส่งหลังยุคโควิด

แม้วัตถุดิบบางอย่างจะลดลงบ้าง แต่โดยรวมราคายังสูงกว่าช่วงก่อนปี 2020

6. ค่าใช้จ่ายด้าน R&D เพิ่มขึ้นทุกปี

เพื่อทำการ์ดจอให้แรงขึ้นแบบก้าวกระโดด ผู้ผลิตต้องลงทุนในด้าน

• Ray Tracing

• AI Upscaling เช่น DLSS / FSR

• เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน

• ระบบระบายความร้อนใหม่

• สถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนขึ้น

ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ถูกบวกเข้าไปในราคาสินค้า

7. เทรนด์ผู้ใช้ยอมจ่ายมากขึ้น ทำให้ราคาไม่ลด

ปัจจุบันเกมและงานตัดต่อกินสเปกสูง ทำให้ผู้ใช้จำเป็นต้องซื้อรุ่นแรง ๆ
ผลคือ

• ผู้บริโภคยอมจ่ายมากขึ้น

• ผู้ผลิตตั้งราคาตาม “คุณค่าที่ลูกค้าเห็น” มากกว่าต้นทุนจริง

• ราคาการ์ดจอจึงไม่ลงตามคาด

8. การ์ดจอรุ่นเก่าถูกลดกำลังผลิต ทำให้ราคายังสูงแม้ไม่ใช่ของใหม่

เมื่อรุ่นใหม่ออก ชิปรุ่นเก่ามักถูกลดสายการผลิตทันที ทำให้

• ของเก่ามีจำนวนน้อย

• แต่ยังมีดีมานด์
  → ราคาจึงไม่ลงเร็วแบบโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ

สรุป: ทำไมการ์ดจอแพงขึ้นเรื่อย ๆ แม้เทคโนโลยีดีขึ้น?

เพราะต้นทุนและความต้องการสูงขึ้นมากกว่าความสามารถในการผลิต
จึงทำให้ราคา GPU เพิ่มขึ้นทุกปีโดยที่เทคโนโลยีก็พัฒนาไปพร้อมกัน

ปัจจัยหลักคือ:
✔ ต้นทุนชิปเทคโนโลยีใหม่ (5nm / 4nm)
✔ ความต้องการสูงจากหลายอุตสาหกรรม
✔ ตลาด AI แย่ง GPU ระดับสูง
✔ การแข่งขันน้อยลง โดยเฉพาะตลาดบน
✔ วัตถุดิบและขนส่งแพงขึ้น
✔ R&D สูงขึ้น
✔ ลูกค้ายอมจ่ายมากขึ้น